แอสตาแซนธิน : สุขภาพผิว
ริ้วรอยแห่งวัยเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่มีปัจจัยบางอย่างที่เร่งทำให้ริ้วรอยนั้นเกิดเร็วขึ้นและชัดเจนมากขึ้น เช่น รังสี UV จากแสงอาทิตย์ มลพิษจากสภาวะแวดล้อม และระดับโอโซนซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอยเนื่องจากชั้นเซลล์ผิวถูกทำลาย และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนัง นอกจากนั้นยังมีสาเหตุที่เกิดจากอาหารที่รับประทานและลักษณะนิสัยการดำเนินชีวิต ที่ทำให้การซ่อมแซมผิวหนังตามธรรมชาติและระบบการต่อต้านอนุมูลอิสระของร่างกายเสียสมดุล ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวร่วมกับผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เข้ามาช่วยในการบำรุงสุขภาพผิวของเราในระยะยาว
คนทั่วไปจะรู้จักสารแคโรทีนอยด์ที่ชื่อว่าเบตา-แคโรทีน (โปรวิตามิน A) และวิตามิน E เป็นอย่างดี แต่ในปัจจุบันได้มีการศึกษาค้นคว้าสารแคโรทีนอยด์ที่ชื่อว่า Astaxanthin ซึ่งผลิตได้จากไมโครแอลจีที่มีชื่อว่า Haematococcus pluvialis ว่ามีคุณสมบัติในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าเบตา-แคโรทีน (โปรวิตามิน A) และวิตามิน E (Miki, 1991)
จากการศึกษาวิจัยพบว่า ผู้ที่ใช้ Astaxanthin ที่อยู่ในรูปของเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเป็นเวลา 4 ถึง 6 สัปดาห์จะมีริ้วรอยแห่งวัยที่เกิดจากรังสี UV ลดลง ดังนั้นจึงสรุปว่า Astaxanthin มีคุณสมบัติในการช่วยบำรุงผิวทำให้ผิวดูอ่อนกว่าวัย ช่วยลบเลือนริ้วรอย และสามารถป้องกันการเกิดมะเร็งผิวหนังจากรังสี UV ได้
ตารางแสดงประโยชน์ของ Astaxanthin ดูแลรักษาสุขภาพผิวได้หลายวิธีดังนี้
ประโยชน์ | กระบวนการ | เครื่องสำอาง | รับประทาน | ||||
1. เพิ่มความสามารถของผิว ในการปกป้องสารที่จำเป็น สำหรับผิว | ฟื้นฟูสมดุล ของสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ตามธรรมชาติ (SOD, CAT, GSH) ป้องกันการเกิด lipid peroxidation | / | / | ||||
2. ลดรอยผื่นแดง | ยับยั้งกระบวนการอักเสบ | / | / | ||||
3. ปกป้อง และลดริ้วรอย ที่เกิดจากรังสี UV
|
ปกป้องเซลล์ผิวจากสารอนุมูลอิสระ ทำให้กระบวนการซ่อมแซมผิวชั้นคอลลาเจนเป็นไปอย่างปกติ | / | / |
สุขภาพผิวที่ดีจากการรับประทานอาหาร
“สวยจากภายใน” หรือการบำรุงผิวด้วยโภชนาการและอาหารเสริม เป็นแนวโน้มที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจเพิ่มมากขึ้น
จากการวิจัย(Yamashita 2002) โดยทำการทดลองกับผู้หญิงจำนวน 8 คนที่มีผิวแห้ง (อายุเฉลี่ย 40 ปี) ทานอาหารเสริมที่มี Astaxanthin 2 มิลลิกรัม และ tocotrienol ธรรมชาติ (Super vitamin E) 40 มิลลิกรัมเป็นประจำทุกวัน จากนั้นทำการเก็บข้อมูลในสัปดาห์ที่ 2 และ 4 และนำไปเปรียบเทียบกับค่าเริ่มต้นก่อนใช้ พบว่าความแตกต่างสามารถวัดได้ภายใน 2 สัปดาห์ และ 4 สัปดาห์ พบว่าผู้ทดลองที่มีผิวแห้งมีการปรับปรุงสภาพผิวดังนี้: ระดับความชุ่มชื้นเพิ่มขึ้น (P<0.05) ,ปริมาณน้ำมันตามธรรมชาติที่ผิวคงที่ และริ้วรอยลดลง และ พบว่าสิวเสี้ยนน้อยลง (P<0.01)
รูปที่ 1 อาหารเสริมเพื่อความงามมีผลช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวบริเวณแก้มและตา (Yamashita, 2002)
รูปที่ 2 ภาพขยายของผิวหนังเมื่อเริ่มต้นทดลอง, สัปดาห์ที่ 2 และสัปดาห์ที่ 4
(Yamashita, 2002)
จากภาพจะเห็นได้ชัดว่าริ้วรอยมีการลดลงอย่างชัดเจน
Yamashita (2006) ได้ทำการศึกษาทดลองผู้หญิงที่มีลักษณะผิวหลายรูปแบบจำนวน 49 คนอายุเฉลี่ย 47 ปี โดยได้รับ Astaxanthin 4 มิลลิกรัม (2x2 มิลลิกรัม) และยาหลอก หลังจากสัปดาห์ที่ 6 พบว่าผู้ที่รับประทาน Astaxanthin 4 มิลลิกรัมต่อวันมีสุขภาพผิวที่ดีขึ้นโดยการสอบถามข้อมูล (รูปที่ 3)
รูปที่ 3 ผลการสอบถามอาสาสมัคร หลังจากรับประทานอาหารเสริม Astaxanthin 6 สัปดาห์ จากการสอบถามอาสาสมัคร(Yamashita, 2006)
จากกราฟพบว่าผู้ที่ทานอาหารเสริมจะมีสุขภาพผิวที่ดีขึ้น
การทดสอบสภาพผิวด้วยเครื่องมือ พบว่ากลุ่มที่ได้รับอาหารเสริมนั้นสุขภาพผิวดีขึ้นดังนี้ ความชุ่มชื้น (P<0.05) และความยืดหยุ่นของผิวดีขึ้น (P<0.05) นอกจากนี้การทดสอบโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังแสดงให้เห็นว่ากลุ่มที่รับประทานอาหารเสริมจะมีริ้วรอยลดลง (P<0.05) และความยืดหยุ่นของผิวเพิ่มขึ้น (P<0.05) ในช่วงระหว่างสัปดาห์ที่ 3 และ 6 (รูปที่ 4) ซึ่งผลที่แสดงออกมาอย่างชัดเจนเนื่องจากการฟื้นฟูผิวหนังจะเริ่มในสัปดาห์ที่ 4-5 และจะเพิ่มสูงสุดในสัปดาห์ที่ 6 ซึ่งเป็นสิ่งที่ยืนยันว่า Astaxanthin สามารถช่วยบำรุงและฟื้นฟูสภาพผิวได้
รูปที่ 4 แสดงการวิเคราะห์ความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นของผิวโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังในสัปดาห์ที่ 3 และ 6 ของการรับประทานอาหารเสริม Astaxanthin (Yamashita, 2006)
กลไกการทำงาน
ผิวหนังประกอบด้วยชั้นต่างๆ สามชั้นได้แก่ หนังกำพร้า, ผิวหนังแท้ และชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ชั้นผิวหนังแท้ประกอบด้วยคอลลาเจน อิลาสติน และเนื้อเยื่ออื่นๆ ที่ค้ำจุนโครงสร้างของผิว และยังเป็นองค์ประกอบที่ทำให้ผิวหนังเรียบเนียนและดูอ่อนเยาว์ สามารถถูกทำลายได้ด้วยรังสี UV
การป้องกันริ้วรอย รังสี UV ที่ส่งผลกระทบกับผิวมีอยู่สองรูปแบบได้แก่ รังสี UVA และ UVB รังสี UVB นั้นมีความยาวคลื่นสั้นกว่ารังสี UVA และเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดรอยไหม้ของผิวและการผลิตเม็ดสีเมลานิน แต่รังสี UVA ที่มีความยาวคลื่นยาวกว่าเป็นสาเหตุหลักของการแก่ก่อนวัย รังสี UVA นั้นทะลุทะลวงเข้าไปในชั้นหนังแท้ ทำลายเนื้อเยื่อคอลลาเจนทำให้เกิดริ้วรอย (รูปที่ 5)
รูปที่ 5 ภาพแสดงผลกระทบของรังสี UVA, UVB และโอโซนที่มีผลต่อผิวหนัง
รังสี UV ทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระและสารที่มีชื่อว่า matalloproteinases (MMP) ซึ่งเป็นปัจจัยทำให้เกิดริ้วรอยเพราะสารทั้งสองจะไปทำลายคอลลาเจนที่ชั้นผิว โชคดีที่ผิวจะมีกลไกในการซ่อมแซมคอลลาเจนที่ถูกทำลาย แต่การได้รับรังสี UV ติดต่อกันเป็นเวลานานๆ ซึ่งทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระและ matalloproteinases (MMP) ปริมาณมาก จะมีผลต่อการสร้างเซลล์ผิวใหม่ จึงเป็นสาเหตุทำให้เกิดริ้วรอย การมี Astaxanthin สามารถลดสารอนุมูลอิสระและปริมาณ matalloproteinases (MMP) และทำให้การสร้างเซลล์ใหม่มีความสมบูรณ์ ริ้วรอยลดลง (รูปที่ 6)
รูปที่ 6 ภาพแสดงการกำจัดสารอนุมูลอิสระโดยใช้ Astaxanthin ช่วยในกระบวนการสร้างเซลล์ผิวใหม่
Astaxanthin ปกป้องผิวจากจากสารอนุมูลอิสระ
ออกซิเจนในเซลล์สามารถก่อตัวเป็นสารอันตรายที่เรียกว่า สารอนุมูลอิสระ (ROS) หรือแอกทีฟออกซิเจนได้ ถ้าได้รับพลังงานจากรังสี UV มากพอ สารเหล่านี้ได้แก่ สารออกซิเจนโมเลกุลเดียว ซุปเปอร์ออกไซด์ และ ไฮดรอกซิล (ทำให้เกิดสารเปอร์ออกซิล) สารเหล่านี้พยายามที่จะแย่งอิเลกตรอนจากโมเลกุลข้างเคียงเพื่อทำให้ตัวเองเสถียรเช่น DNA, ฟอสโฟลิพิด เอนไซม์ และโปรตีน
Astaxanthin สามารถจับตัวกับออกซิเจนโมเลกุลเดียวเหล่านี้ และสามารถยับยั้งการเกิด lipid oxidation ดีกว่าสารต้านอนุมูลอิสระอื่นๆ มาก และควบคุม ROS ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า
การต่อต้านการอักเสบ
รอยผื่นแดงหรืออาการอักเสบที่เกิดขึ้นหลังจากการสัมผัสกับแสงแดด สามารถควบคุมได้โดยสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ Yamashita (1995) แสดงให้เห็นจากการทดลองกับผู้ชายจำนวน 7 คน ที่ใช้ Astaxanthin ธรรมชาติทาที่ผิว พบว่าระดับของรอยบวมแดงที่เกิดจากแสงแดดลดลงอย่างชัดเจนถึง 60% ในชั่วโมงที่ 98 หลังจากสัมผัสแสง UVB ขณะนี้เราทราบว่า Astaxanthin ทำงานโดยยับยั้งตัวกลางที่ก่อให้เกิดการอักเสบและCytokines ผ่านทาง IkB kinase โดยขึ้นกับ NF-kB activation pathway (Lee et al., 2003)
ความปลอดภัยในการใช้กับเครื่องสำอางและอาหารเสริม
Astaxanthin ปลอดภัยสำหรับการใช้เป็นเครื่องสำอาง จากจำนวนผู้เข้าร่วมการทดลองทั้งหมด 45 คน (ทั้งชายและหญิง) ที่รับการทดสอบ Standard Japanese Patch พร้อมรายงานผลในเวลา 24-48 ชั่วโมงหลังการทดสอบ ผิวชั้นนอกนั้นเกิดอาการเนื่องจากพลาสเตอร์กาวเท่านั้น ไม่มีอาการที่เกิดจาก Astaxanthin แต่อย่างใด (Seki et al. 2002) นอกจากนี้ Koura (2005) ยังพบว่าไม่มีอาการทางลบใดๆ ในการสอบ Sensitization ในสัตว์
Astaxanthin อยู่ในรายการ JP Cosmetics และรายชื่อ INCI ในชื่อว่า Haematococcus pluvialis extract
โดยทั่วไปวิธีที่จะลดริ้วรอยก่อนวัยที่เกิดจากแสงแดดนั้น คือ การหลีกเลี่ยงให้ห่างไกลจากแสงแดดและการใช้ครีมกันแดดในการปกป้องผิว แต่อย่างไรก็ตามโดยทั่วไปคนเราไม่สามารถปกป้องผิวได้อย่างดีพอ ดังนั้นการใช้สารแคโรทีนอยด์ที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น ผลิตภัณฑ์ Astaxanthin สำหรับใช้เป็นเครื่องสำอางและเป็นอาหารเสริมจะมีคุณสมบัติในการช่วยลดริ้วรอยก่อนวัยอันควร
References
1. Yamashita, E., (2006), The Effects of a Dietary Supplement Containing Astaxanthin on Skin Condition. Carotenoid Science, 10:91-95.
2. Yamashita, E., (2002), Cosmetic benefit of the supplement health food combined astaxanthin and tocotrienol on human skin. Food Style 21 6(6):112-117.
3. Miki, W., (1991), Biological functions and activities of animal carotenoids. Pure & Appl. Chem., 63(1):141-146.
4. Lee, S.J.et al., (2003), Astaxanthin Inhibits Nitric Oxide Production and Inflammatory Gene Expression by Suppressing IkB Kinase –dependent NF-kB Action.Molecules and Cells, Vol.16,No.1,pp.97-105
5. Seki ,T.,et al.,(2001) , Effects of astaxanthin from haematococcus pluvialis on human skin.France Journal 12:98-103.